Explore our selection of articles with expertise knowledge and for inspiration.
Learn more about consumer trends driving new growth opportunities.
Consumer trends in the food & beverage industry.
Enabling the transition to sustainable food systems.
Contributing to sustainable development – Let’s GO further.
Taking action in the areas where we can contribute the most.
นมวัว ถือเป็นวัตถุดิบธรรมชาติที่แสนวิเศษ เพราะเต็มไปด้วยประโยชน์คุณค่าทางอาหาร สามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่มได้อย่างหลากหลาย
แต่ผู้บริโภคบางกลุ่ม กลับไม่สามารถดื่มได้ เนื่องจากมีอาการแพ้ นมแลคโตสฟรี จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ
เรามาทำความรู้จักน้ำตาลแลคโตสกันก่อนครับ น้ำตาลชนิดนี้มีเฉพาะในนมสัตว์เท่านั้น และจะถูกย่อยด้วย เอนไซม์ แลคเตส หรือ เบต้า – กาแลคซิเดส เอนไซม์ชนิดนี้มีมากในเด็กทารก และจะลดลงเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ทำให้ผู้ใหญ่ที่โตแล้วสามารถเกิดอาการแพ้นมวัวได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีอาการดังกล่าวในตอนเด็ก การแพ้นมวัว คือภาวะที่ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมได้ ทำให้เกิดกรดและแก๊สมากขึ้นในช่องท้อง จนทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดหรือเสียดท้อง
การแพ้น้ำตาลแลคโตสในนม เกิดขึ้นกับเด็กทารกมากถึง 0.3 - 7.5 % และ 1 ใน 5 ของเด็กที่แพ้นมจะมีอาการนี้จนถึงตอนโต ซึ่งในปัจจุบันอัตราการเพิ่มของผู้ที่แพ้น้ำตาลแลคโตสในนมมีมากถึง 80 – 100 % และในประเทศไทยมีรายงานว่า มีคนไทยถึง 98% ที่อยู่ในภาวะนี้ ที่น่าสนใจก็คือคนเอเซียรวมทั้งคนไทยโดยกรรมพันธุ์ส่วนใหญ่จะขาดเอนไซม์ชนิดนี้อีกด้วยนะครับ
นมแลคโตสฟรี คือนมวัวแท้ ๆ ที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายน้ำตาลด้วยเอนไซน์ธรรมชาติ แลคเตส หรือ เอนไซม์เบต้า-กาแลคโตซิเดส ทำให้น้ำตาลแลคโตสที่มีอยู่ในนมนั้นหมดไป รวมถึงทำให้โมเลกุลของนมเล็กลง จึงดื่มง่ายมากยิ่งขึ้น ทางด้านคุณประโยชน์ยังเทียบเท่านมวัวในธรรมชาติทั่วไป และยังช่วยทำให้แลคโตสในนมมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก ที่มีคุณประโยชน์กับทางเดินอาหารของมนุษย์ ช่วยลดจำนวนแบคทีเรียที่ก่อให้เกิด โรคกระเพาะ, ลดอาการท้องผูก, ลดความดันโลหิต, ช่วยเพิ่มวิตามินบางชนิด เช่น B1, B2, B6 และ B12 เพิ่มการดูดซึมของแคลเซียม ช่วยลดปริมาณสารพิษและเอนไซม์ที่เป็นพิษซึ่งเกิดจากจากกระบวนการเมตาบอลิซึม จึงทำให้มีสารพิษเข้าสู่ตับลดลงด้วย แน่นอนว่ารสชาติของนมแลคโตสฟรีนั้นไม่แตกต่างจากนมวัวธรรมดาเลยครับ ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบนมวัวสามารถลิ้มรสชาติแท้ ๆ ของนมวัวได้อย่างเต็มที่
ถึงแม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คนไทยยังไม่คุ้นชิน แต่ นมแลคโตสฟรีนั้น มีการวางขายมาแล้ว ในหลากหลายประเทศ ทั้ง อิตาลี ฟินแลนด์ อังกฤษ เดนมาร์ก เยอรมนี และโคลัมเบีย โดยนอกจากจะวางขายนมแลคโตสฟรีในลักษณะนมจืดทั่วไป ยังมีการดัดแปลงเพิ่มมูลค่า ด้วยการเพิ่มรสชาติและกลิ่นลงไปด้วย รวมทั้งยังแตกยอดผลิตภัณฑ์ ทั้งโยเกิร์ต ครีมสำหรับทำอาหาร วิปปิ้งครีม ซอสทอปปิ้ง และ อื่น ๆ ในบรรจุภัณฑ์หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น กล่องขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว หรือ ขนาดเล็ก 200 มล. ในปริมาณ 1 อิ่ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
แน่นอนว่ามีผู้บริโภคหลายคนมีความชื่นชอบในรสชาติของนมวัวมากกว่านมทดแทนจากพืชแต่ตนเองนั้น ไม่สามารถดื่มนมวัวได้เพราะมีอาการแพ้ ผลิตภัณฑ์จากนมประเภทแลคโตสฟรี จึงเป็นการเติมเต็มช่องว่างในตลาด และช่องว่างในใจของผู้บริโภค ให้ได้กลับมาบริโภคนมวัวได้เป็นปกติ
สำหรับนมแลคโตสฟรี แบรนด์แรกในไทยก็เพิ่งมีการเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยใช้กล่องรุ่นใหม่ Tetra Brik® Aseptic 200 Slim Leaf ที่มีรูปทรงแถบใบไม้สะดุดตา ถือเป็นการเปิดตลาดทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคทั้งตัวสินค้าที่เป็นนมแลคโตสฟรี และการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่แปลกใหม่ในการสร้างภาพลักษณ์และความโดดเด่นบนชั้นวางให้กับผลิตภัณฑ์ เพราะนอกจากผลิตภัณฑ์จะตอบโจทย์สำหรับผู้บริโภคที่แพ้นมวัวแล้ว ดีไซน์และความโดดเด่นยังเป็นการสร้างโอกาส และกระตุ้นความสนใจของกลุ่มผู้บริโภคที่ชอบความแปลกใหม่ในไลน์ผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วยครับ