2020-06-30
BANGKOK

​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​เต็ดตรา แพ้ค ประกาศจุดยืนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

บริษัทประกาศเจตนารมย์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2573 และตั้งเป้าสุทธิเป็นศูนย์ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2593

กรุงเทพฯ 30 มิถุนายน 2563 - เต็ดตรา แพ้ค ย้ำกลยุทธ์การดำเนินงานที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นบริษัทที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิตลอดทั้งห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2593 เพื่อต่อยอดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิในการดำเนินงานของบริษัทเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2573 บริษัทยังได้กำหนดเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้สอดคล้องกับนโยบายการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสตามแผนงานของ Science Based Targets (SBT) โดยจะครอบคลุมทั้งขอบเขตการดำเนินงานที่ 1 2 และ 3​​​​​

Solar panels onsite to reduce greenhouse gas emissions

เต็ดตรา แพ้ค ก่อกำเนิดจากแนวคิดที่ว่า บรรจุภัณฑ์ควรจะมีมูลค่ามากกว่าราคาของตัวเอง โดยยึดมั่นความยั่งยืนเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัท นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 บริษัทได้รวบรวมข้อมูลการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรในแต่ละปี และจัดให้มีการตรวจสอบปริมาณก๊าซเรือนกระจกโดยองค์กรอิสระมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556

มร. ลาร์ส ฮอล์มควิสต์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายโซลูชั่นบรรจุภัณฑ์และการดำเนินงานฝ่ายขาย บริษัท เต็ดตรา แพ้ค กล่าวว่า “เราบรรลุเป้าหมายการปกป้องสภาพภูมิอากาศมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เริ่มกำหนดเป้าหมายแรกในปี พ.ศ. 2545 และอีกครั้งในปี พ.ศ. 2548 และเรากำลังจะบรรลุเป้าหมายในปี พ.ศ. 2563 ที่ตั้งเอาไว้ โดยในปี พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา เราเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ที่กำหนดเป้าหมายลดผลกระทบจากการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งได้รับการอนุมัติโดยแผนงาน Science Based Targets (SBT) เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรายังได้เข้าร่วมกับองค์กร European Alliance for Green Recovery ซึ่งเป็นแผนงานแรกของขบวนการรวมกลุ่มยุโรป (pan-European) ที่ครอบคลุมทั่วทวีปยุโรปในการขับเคลื่อนโซลูชั่นการลงทุนเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมหลังภาวะวิกฤต วันนี้จึงนับเป็นอีกครั้งที่เราก้าวมาเป็นผู้นำในการตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันการเปลี่ยนแปลง ทั้งในส่วนการผลิตขององค์กรและห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรของเราทั้งหมด เพราะปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้ ต้องการความทุ่มเท ร่วมมือกันอย่างเต็มที่จากพวกเราทุกคน”

เต็ดตรา แพ้ค จัดลำดับความสำคัญกับการทำงานหลัก 4 ด้าน เพื่อให้บรรลุภารกิจการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทภายในปี พ.ศ. 2573 และมุ่งสู่เป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ตลอดทั้งห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรภายในปี พ.ศ. 2593 ผ่านการใช้วิธีการต่าง ๆ ทั้งการลดการปล่อยก๊าซที่เกิดจากการใช้พลังงาน การจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ถือประโยชน์ภาคส่วนต่างๆ ในห่วงโซ่มูลค่า เพื่อลดอัตราการปล่อยคาร์บอนอย่างมีนัยสำคัญ การเร่งพัฒนาระบบเครื่องจักรและกลุ่มบรรจุภัณฑ์หมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำ ตลอดจนการพัฒนาวงจรของกระบวนการรีไซเคิลอย่างยั่งยืน

มร.ลาร์ส ฮอล์มควิสต์ กล่าวเสริมว่า “เมื่อ 10 ปีก่อน เราได้ตั้งเป้าหมายเพื่อรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกในปี 2563 โดยการปรับการทำงานตลอดห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรของเรานับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ไปพร้อมๆ กับการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ ซึ่งเป้าหมายนี้ทำให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 12 ล้านตันจนถึงวันนี้ เราเชื่อว่าความสามารถในการกำหนดเป้าหมาย การนำเสนอความก้าวหน้าที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์และสังคม รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความร่วมมือของเรากับทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่ของการดำเนินธุรกิจ ทำให้เราดำเนินงานอยู่บนแนวทางที่ถูกต้องเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายใหม่ของเราได้”

“เต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย เข้าร่วมในเป้าหมายระดับโลกนี้ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เรายังมีส่วนร่วมในแผนงานอื่น ๆ อีกมากมายในการเพิ่มอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน รวมถึงการจัดซื้อพลังงานจากหน่วยงานที่ได้ใบรับรองพลังงานหมุนเวียนนานาชาติ (International Renewable Energy Certificates: I-RECs) โดยเต็ดตรา แพ้ค เป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้รับโกลด์สแตนดาร์ด (Gold-Standard) จาก I-RECs โรงงานการผลิตของเราในจังหวัดระยองได้ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานทั้ง 4 หลัง ซึ่งสร้างพลังงานไฟฟ้าทดแทนได้ถึง 1,350 เมกะวัตต์-ชั่วโมง ในแต่ละปี” มร. เบิร์ท ยาน โพสท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว​

เกี่ยวกับ เต็ดตรา แพ้ค

​​เต็ดตรา แพ้ค เป็นบริษัทผู้นำของโลกในด้านกระบวนการผลิตและบรรจุอาหาร เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ขายสินค้าและลูกค้าของเรา ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบสนองความต้องการของผู้คนนับล้านในกว่า 160 ประเทศ ด้วยพนักงานมากกว่า 25,000 คน ทั่วโลก เต็ดตรา แพ้ค เชื่อมั่นในความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบและแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน คำขวัญของเต็ดตรา แพ้คที่ว่า ปกป้อง ทุกคุณค่า™” (PROTECTS WHAT’S GOOD™) นั้น สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของเราที่จะทำให้อาหารปลอดภัยและมีอยู่พร้อมสำหรับการบริโภคในทุกๆ ที่ทั่วโลก สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเต็ดตรา แพ้ค ได้ที่ www.tetrapak.com/th
 

ข้อมูลสำหรับบรรณาธิการ

• มาตรฐานระเบียบองค์กรด้านก๊าซเรือนกระจก (GHG Protocol Corporate Standard) จำแนกรูปแบบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัทออกเป็น 3 ขอบเขต โดยขอบเขตที่ 1 คือการปล่อยโดยตรงจากแหล่งกำเนิดภายใต้การควบคุม ขอบเขตที่ 2 คือการปล่อยโดยอ้อมจากการผลิตด้วยพลังงานที่จัดซื้อมา และขอบเขตที่ 3 คือการปล่อยโดยอ้อมทั้งหมด (ไม่รวมขอบเขตที่ 2) ที่เกิดขึ้นตลอดห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจของบริษัทที่รายงานผลซึ่งครอบคลุมถึงการปล่อยก๊าซทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ภารกิจการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593 ของเต็ดตรา แพ้ค ครอบคลุมทุกแง่มุมของห่วงโซ่คุณค่า นับตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ ไปจนถึงการจัดการกับผลิตภัณฑ์หลังเสร็จสิ้นการใช้งาน ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า 80% ในห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจของบริษัทมาจากซัพพลายเออร์ในขั้นตอนการผลิตวัตถุดิบและจากสถานที่ปฏิบัติงานของลูกค้าที่ใช้ระบบการแปรรูปและเครื่องบรรจุของเต็ดตรา แพ้ค

• ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 เต็ดตรา แพ้ค เข้าร่วมกับ European Alliance for Green Recovery ซึ่งจัดตั้งโดยสภายุโรป โดยมีวิสัยทัศน์ในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 องค์กรนี้ได้รวบรวมบรรดาผู้ถือประโยชน์เพื่อสนับสนุนแผนการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และการสร้างห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ยืดหยุ่นซึ่งถือเป็นแกนหลักของนโยบายเศรษฐกิจของยุโรปในระยะเวลา 7 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2564-2570)

• ในปี พ.ศ. 2562 นับเป็นปีที่สามติดต่อกันที่ เต็ดตรา แพ้ค ได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้นำด้านการดำเนินงานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกและป่าไม้ของซีดีพี จากรายงานของบริษัทในปี พ.ศ. 2562 ระบุว่า เต็ดตรา แพ้ค ได้คะแนนระดับ ‘ดับเบิล เอ’ จากซีดีพี จากความพยายามที่เป็นเลิศเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกและการปกป้องป่าไม้ตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัท (มีเพียง 2%) จากบริษัทหลายพันแห่ง ที่มีประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยระดับคะแนนขั้นสูงในเรื่องนี้

• ในปี พ.ศ. 2562 เต็ดตรา แพ้ค โดยความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ Braskem กลายเป็นบริษัทแห่งแรกในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่จัดหาแหล่งวัตถุดิบอย่างรับผิดชอบ โดยเลือกใช้โพลิเมอร์จากพืชที่ได้รับมาตรฐาน Bonsucro สำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์จากอ้อยอย่างยั่งยืน การได้มาซึ่งใบรับรองแหล่งวัตถุดิบของ Bonsucro สามารถสื่อสารให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะประเภทผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น การดำเนินงานครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการผลักดันการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานในระดับสากล พร้อมกับการลดอัตราการปล่อยคาร์บอนจากการผลิตบรรจุภัณฑ์

• ในปี พ.ศ. 2560 เต็ดตรา แพ้ค ถือเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่มีเป้าหมายของบริษัทในการลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกที่ผ่านการอนุมัติจากแผนงาน Science Based Targets (SBT)โดย SBT เป็นพันธมิตรกับ CDP, WRI, WWF และ UN Global Compact โดยขับเคลื่อนบริษัทต่าง ๆ ให้กำหนดภารกิจลดผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกให้สอดคล้องกับภูมิอากาศวิทยา

• ในปี พ.ศ. 2559 เต็ดตรา แพ้ค เข้าร่วมกับ RE100 โดยมุ่งเพิ่มอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนทั้ง 100% ในการดำเนินงานทั่วโลกภายในปี พ.ศ. 2573 โดย RE100 คือแผนงานความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลก นำโดย The Climate Group ภายใต้ความร่วมมือกับซีดีพี เพื่อเพิ่มความต้องการและการส่งมอบพลังงานหมุนเวียน